หมายเหตุ บทความนี้นำมาจากบทบรรณาธิการที่ผมเขียนให้กับวารสารอักษรศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากร ปีที่ 24 ฉบับที่ 1 -2 (มิถุนายน2544-พฤษภาคม 2545) ฉบับโลกาภิวัตน์
บทบรรณาธิการ
บุญส่ง
ชัยสิงห์กานานนท์
ในทุกวันนี้
เราต่างคุ้นเคยกันดีกับคำว่าโลกาภิวัตน์ (globalisation
/ globalization ) และเป็นข้อเท็จจริงเช่นกันที่ความเข้าใจของเราที่มีต่อโลกาภิวัตน์มีความแตกต่างกันไป
รวมถึงปฏิกิริยาตอบรับของแต่ละคนต่อสิ่งที่เรียกว่าโลกาภิวัตน์นี้ก็แตกต่างกัน โลกาภิวัตน์คืออะไร? โลกาภิวัตน์เป็นความเป็นจริงหรือเป็นเพียงโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองในรูปแบบอุดมการณ์แบบหนึ่ง? เราควรมีปฏิกิริยาอย่างไรดีต่อสิ่งนี้? คำถามชุดดังกล่าวนี้เป็นคำถามที่เปิดประเด็นสู่หัวเรื่องหลักของวารสารอักษรศาสตร์
มหาวิทยาลัยศิลปากรฉบับนี้
ในรายงานปี 1995 ของคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งของสหประชาชาติ
คือ The Commission on Global Governance ได้นำเสนอไว้ว่า
“ คำว่าโลกาภิวัตน์นั้นแต่แรกสุดถูกใช้เพื่อบรรยายถึงด้านสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในระดับเปลี่ยนย้ายของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลก แต่กระนั้น
กิจกรรมอีกหลายประการซึ่งออกไปในทางลบกว่า อันรวมถึงการค้ายาเสพติด การก่อการร้าย
การค้าวัสดุด้านนิวเคลียร์
ก็ล้วนถูกกระทำในระดับโลกาภิวัตน์เช่นกัน การเปิดเสรีทางการเงินการคลังที่ดูเหมือนจะได้สร้างโลกไร้พรมแดนขึ้นนั้น
ได้ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับอาชญากรรมข้ามชาติ
และก่อปัญหานานัปการให้กับประเทศที่ยากจนกว่า ความร่วมมือกันระดับโลกได้กำจัดไข้ทรพิษ
และยังได้กำจัดวัณโรคและอหิวาตกโรคไปจากพื้นที่มากมายยิ่ง แต่กระนั้น
ในบัดนี้โลกก็กลับต้องดิ้นรนเพื่อป้องกันการกลับฟื้นคืนมาใหม่ของโรคร้ายดั้งเดิมเหล่านี้
และยังต้องพยายามควบคุมการแพร่กระจายในระดับโลกของโรคเอดส์” [1]
นี่คือการยอมรับความจริงที่ว่า
กระแสและสภาพการณ์แบบโลกาภิวัตน์นั้นมีทั้งด้านสร้างสรรค์และด้านลบ
และทั้งสองด้านก็เอื้ออำนวยต่อพัฒนาการของกันและกัน
อันส่งผลทางตรงต่อการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกในเวลานี้
โลกาภิวัตน์เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
แสดงออกในกิจกรรมของมนุษย์หลายด้าน ไม่ใช่แค่เพียงด้านทางเศรษฐกิจแต่เพียงด้านเดียวอย่างที่มักเข้าใจกัน
เราอาจกล่าวโดยภาพรวมได้ว่า เมื่อเรากล่าวถึงโลกาภิวัตน์
เรากำลังกล่าวถึงกระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นในด้านใดด้านหนึ่งดังต่อไปนี้
1. โลกาภิวัตน์ทางเทคโนโลยีข่าวสารและการสื่อสาร
โดยอาศัยสื่อสมัยใหม่ในยุคหลังๆนี้
เช่น ดาวเทียม อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่และโทรศัพท์ไร้สาย
ทำให้เกิดสภาพแบบที่มาร์แชล แมคลูฮัน(Marshall McLuhan)เคยเรียกไว้ว่า
“หมู่บ้านโลก” (Global village) เมื่อการรับรู้ข่าวสารและการติดต่อสื่อสารทั่วถึงกันทุกพื้นที่ในโลกเป็นไปได้ในแบบทันใดและทันใจ
2. โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ
อันได้แก่
การขยายตัวครอบโลกของตลาดทุนทางการเงินการคลัง
ซึ่งส่งผลให้เกิดสภาพทุนนิยมระดับโลกาภิวัตน์
โดยอิงอาศัยการเอื้อควมเป็นไปได้ในการโยกย้ายเงินทุนเข้าออกรัฐชาติต่างๆ
จากการใช้ระบบเศรษฐกิจแบบอิเล็กโทรนิคซึ่งเป็นผลจากโลกาภิวัตน์ทางเทคโนโลยีข่าวสารและการสื่อสาร
ทำให้การเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของทุนทางการเงินการคลังข้ามพรมแดนเกิดขึ้นได้จริงเป็นครั้งแรกในโลก
3. โลกาภิวัตน์ทางวัฒนธรรม
จากสภาพของการขยายตัวครอบโลกทางวัฒนธรรมในแบบตะวันตก
โดยเฉพาะที่นำโดยอเมริกา
ได้ส่งผลในด้านกลับ คือการเกิดกระแสต่อต้านจากวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆทั่วโลก
จนเกิดการเมืองของการแข่งขันกันในการสร้างเอกลักษณ์หรืออัตลักษณ์ของชุมชนต่างๆทั่วโลก
ทั้งเพื่อแสดงความเหมือนและความเป็นพวก และแสดงความแตกต่างเป็นแบบเฉพาะ
ในโลกที่ความหลากหลายทางเอกลักษณ์ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันและเสนอตัวออกมาท้าทายกันในปัจจุบันโดยอาศัยโลกาภิวัตน์ทางเทคโนโลยีข่าวสารและการสื่อสาร
4. โลกาภิวัตน์ของเครือข่ายอาชญากรรม ที่เชื่อมต่อเครือข่ายอาชญากรรมท้องถิ่นเข้ากับระดับข้ามชาติ
อิงอาศัยความร่วมมือระหว่างกันและกัน แผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลก โดยดำเนินการในสิ่งผิดกฎหมายต่างๆข้ามรัฐ เช่น ค้ายาเสพติด ค้าของเถื่อน
ค้าผู้หญิงและเด็ก นำแรงงานเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย
ค้าอาวุธสงครามต่างๆ
ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้ในการก่อการร้ายและการโจรกรรมรูปแบบต่างๆ
ความร่วมมือข้ามชาติเช่นนี้กระทำโดยอาศัยการใช้ประโยชน์จากโลกาภิวัตน์ในข้อที่
1 และข้อที่ 2 นั่นเอง
ทั้งหมดที่ได้กล่าวมาข้างต้น
เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนในจำนวนที่มากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต
และเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมแหล่งต่างๆทั่วทั้งโลก
แม้ว่าเทคโนโลยีใหม่ๆดังกล่าวอาจจะยังกระจายไม่ทั่วถึง
แต่ก็กล่าวได้ว่าได้ให้อิทธิพลใหม่ๆทั้งทางตรงและทางอ้อมสู่ผู้คนมากมาย
เมื่อมีช่องทางเปิดให้ คำถามที่ตามมาก็คือ
เราจะรับมือกับโลกาภิวัตน์ด้านต่างๆอย่างไรจึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อ
แน่นอนว่าสังคมไทยต้องการการคิดอย่างเอาจริงเอาจังในเริ่องนี้
.......
ภายใต้การเกิดสภาพพหุสังคมในทุกแดนดิน
อันเป็นผลมาจากการลี้ภัย การโยกย้ายถิ่นฐานและการอพยพข้ามรัฐของผู้คนทั่วโลก
ทั้งที่เป็นผลมาจากปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือสังคม ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย
ตลอดจนปัญหาการเผชิญหน้ากันระหว่างเครือข่ายประชาชนข้ามรัฐกับบรรษัทข้ามชาติ สังคมไทยในวันนี้จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงนั้นต้องอาศัยการย่างก้าวอย่างชาญฉลาด
อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์
และนี่คือบทบาทหลักบทบาทหนึ่งของวารสารทางวิชาการที่จะทำหน้าที่ช่วยเป็นสติให้กับสังคม
อันเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางวิชาการเพื้อเอื้อประโยชน์สุขกลับสู่สังคมนั่นเอง
[1] The Commission on Global
Governance. 1995. Our global
neighbourhood. Oxford : Oxford University
Press. : 10- 11.
No comments:
Post a Comment